เที่ยวชิมชิวไปกับติ๊กที่เมืองจิจิบุ

วันนี้ติ๊กจะพาไปชิวไปชิมกันที่ จ.ไซตะมะ (Saitama) กันต่อค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวค่ะ

เราเดินทางมาถึงเมืองจิจิบุ (Chichibu) กันแล้ว เมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟ

 

ติ๊กจะพาไปดูร้านขายของที่ระลึกของเมืองจิจิบุกันค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกันนะค่ะ ว่าเมืองจิจิบุจะมีอะไรขึ้นชื่อกันบ้าง ตามติ๊กมาเลยค่ะ

 

โปเตกุนมะ เป็นมาสคอตของเมืองจิจิบุ โปเต ก็คือ โปเตโต้ ส่วน กุนมะ คือหมี

เรามาดูกันนะค่ะ ว่าของขึ้นชื่อของเมืองจิจิบุ จะใช้รูปมาสคอตโปเตกุนมะ มาทำอะไรกันบ้าง ติ๊กเจอแล้วค่ะ ขนมมันฝรั่งรูปหมี หรือโปเตกุนมะ

 

มันฝรั่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้ เค้านำมาทำเป็นขนมมันฝรั่งรูปหมี และรูปเท้าหมีค่ะ มีเยลลี่ และพุดดิ้ง ทั้งหมดนี้ จะติดโลโก้โปเตกุนมะ

 

ของขึ้นชื่ออีกอย่างของเมืองจิจิบุ คือ จิจิบุโมจิ หรือขนมโมจิ นั่นเองค่ะ เป็นขนมโมจิที่นุ่มมาก นุ่มเหมือนสำลีเลยล่ะค่ะ

 

และของขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างของที่นี่ ก็คือ ซะกุชินะ  หรือผักดอง ค่ะ ที่นี่เค้าจะนำผักมาดองทั้งหัวเลยค่ะ

 

มาถึงเมืองจิจิบุแล้ว ต้องหยิบของฝากติดไม้ติดมือ กันไปด้วย เพราะมีขายเฉพาะที่เมืองนี้เท่านั้นนะค่ะ

 

มาถึงทั้งที เดี๋ยวติ๊กขอชิมจิจิบุโมจิ กันหน่อยนะค่ะ ว่าจะอร่อยแค่ไหน แค่จับก็รู้แล้วล่ะค่ะ ว่านุ่มมากๆ แป้งนุ่มๆ กัดเข้าไปนุ่มเหมือนมาชเมลโล่เลยล่ะค่ะ เหนียวๆ นุ่มๆ สัมผัสกับลิ้นแล้ว อร่อยมากๆ เลยค่ะ มาลองชิมกันนะค่ะ

 

เดี๋ยวตามติ๊กไปนะค่ะ ว่าติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ ตามติ๊กมาเลยค่ะ

ติ๊กจะพามาทำกิจกรรมกันค่ะ จะเป็นกิจกรรมอะไรเอ่ย อยากรู้แล้วใช่ไหมค่ะ กิจกรรมที่ติ๊กจะพาไปทำ เป็นไฮไลท์ของ จ. ไซตะมะ เลยค่ะ นั่นก็คือ การล่องแก่ง นั่นเองค่ะ

 

การเดินทางมาล่องแก่ง เราสามารถนั่งรถไฟ มาลงที่สถานี นากาโตโร่ (Nagatoro Station) ได้เลยค่ะ

 

ก่อนที่เราจะไปล่องแก่งกัน  เราต้องมาซื้อตั๋วก่อนค่ะ ซึ่งจุดขายตั๋วจะอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟนากาโตโร่ เมื่อเราซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราจะนั่งรถบัสไปยังจุดล่องแก่งค่ะ ราคาตั๋ว 1,600 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และราคา 800 เยน สำหรับเด็ก นั่งเรือล่องแก่งได้ 20 นาที

 

เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปขึ้นรถบัสเพื่อไปยังจุดล่องแก่งกันค่ะ (Nagatoro River Rafting)

 

ถึงแล้วค่ะจุดล่องแก่ง เดี๋ยวเราจะลงเรือวาเซน กันค่ะ เรือวาเซน เป็นเรือที่คิดค้นโดยชาวบ้าน บรรจุคนได้ 20 คน มีคนพายเรือ 2 คน ไม้พายจะเป็นแท่งไม้ไผ่ และมีคนคุมหางเสือเรือ

 

เรือวาเซนจะแล่นไปตามแม่น้ำอาราคาว่า (Arakawa) ใช้เวลาล่องเรือ 20 นาที กระแสน้ำของแม่น้ำอาราคาว่านี้เป็นกระแสน้ำเชี่ยว คนพายเรือต้องมีความชำนาญเป็นอย่างมากเลยค่ะ

ระหว่างนั่งเรือ เราจะเห็นบรรยากาศที่สวยงามเป็นธรรมชาติ และจะผ่านสะพานรถไฟ ที่เป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำอาราคาว่า

 

นอกจากเราจะสนุกกับการล่องเรือไปตามล่องน้ำที่กระเซ็นแล้ว เรายังสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ 2 ข้างทาง ได้อย่างสวยงามเลยค่ะ ช่วงที่กระแสน้ำนิ่ง เราสามารถชมหินที่มีเลเยอร์ มีมิติ มีความลึกลับของชั้นหิน และดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อีกแบบหนึ่งด้วยค่ะ

 

นอกจากเราจะนั่งเรือล่องกันแล้ว ยังมีการพายเรือแคนูต้านลำน้ำได้อีกด้วยค่ะ น่าเล่นมากๆ ค่ะ

 

ใครมีโอกาสมาท่องเที่ยวที่ จ.ไซตะมะ อย่าลืมมานั่งเรือวาเซนล่องแก่งกันนะค่ะ ห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะเป็นหนึ่งไฮไลท์ของเมืองนี้เลยค่ะ

ล่องเรือกันแล้ว เดี๋ยวเราเข้าไปที่ตัวเมืองจิจิบุกันค่ะ มีของอร่อยๆ รอเราอยู่ค่ะ ตามติ๊กมานะค่ะ

ติ๊กจะพามาทานโซบะที่ขึ้นชื่อของเมืองจิจิบุ ที่ร้านวาเฮ (Wahei) ซึ่งที่นี่มี จิจิบุโซบะ (Chichibu Soba) ที่อร่อยขึ้นชื่อเลยล่ะค่ะ

 

แค่เห็นคนยืนรอคิวหน้าร้านเต็มไปหมด รับประกันได้เลยค่ะว่าต้องอร่อยแน่นอน จะอร่อยขนาดไหนเดี๋ยวติ๊กต้องชิมก่อนนะค่ะ

 

เซ็ท ที่ขึ้นชื่อของร้าน ต้องนี่เลยค่ะ จิจิบุโซบะ เซ็ทนี้ล่ะค่ะ โซบะ เสริฟพร้อมเทมปุระร้อนๆ ค่ะ

 

เส้นโซบะของที่นี่ จะมีความแตกต่างจากที่อื่น คือโซบะจะทำมาจากบัควีค แต่โซบะของที่นี่ จะใช้บัควีคผสมกับวอลนัทค่ะ ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ค่ะ

การทานโซบะของที่นี่ก็แตกต่างจากที่อื่นด้วยค่ะ โดยมีเคล็ดลับความอร่อยที่ต้องลอง 4 แบบค่ะ

1.       ทานเส้นโซบะอย่างเดียว

2.       ทานเส้นโซบะพร้อมน้ำซอส โดยการจอ้ม 1 ส่วน 3 ของน้ำซอส

3.       ทานเส้นโซบะกับน้ำซอสและเครื่องเคียง โดยการใส่ต้นหอม และวาซาบิ ลงไปในน้ำซอส

4.       เติมโชยุลงไปในน้ำซอส แล้วทานกับโซบะ

เราก็จะได้วิธีการทานโซบะที่หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ ถึงเวลาชิมแล้วค่ะ เส้นโซบะ ถ้าทิ้งไว้นานๆ จะแข็งตัว ติ๊กต้องรีบชิมแล้วค่ะ ชิมแบบเส้นโซบะอย่างเดียวก่อน โดยไม่ต้องจิ้มซอส ได้กลิ่นหอมของเส้นโซบะค่ะ

 

มาชิมแบบจิ้มซอสบ้างค่ะ จิ้ม 1 ใน 3 นะค่ะ อร่อยไปอีกแบบค่ะ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานเค็ม จิ้มแบบนี้กำลังอร่อยพอดีเลยค่ะ

 

มาชิมแบบที่ 3 กันบ้างค่ะ โดยการใส่ต้นหอม และวาซาบิ ลงไปในซอสค่ะ ได้ความหอม เผ็ดหน่อยๆ ค่ะ

 

ใครชอบรสชาติไหน ก็เลือกใส่กันตามใจชอบเลยค่ะ แค่ติ๊กชอบแบบใสเครื่องลงไปค่ะ

มาชิมเทมปุระบ้างค่ะ เทมปุระของที่นี่ มาแบบร้อนๆ กรอบๆ เลยค่ะ และที่สำคัญไม่อมน้ำมันด้วยค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือเลยล่ะค่ะ

 

ทานของคาวกันไปแล้ว เดี๋ยวติ๊กจะพาไปทานของหวานกันต่อค่ะ ของหวานที่ว่านี้ก็คือ สตรอเบอรรี่ค่ะ เราจะไปเด็ดทานกันสดๆ จากต้นเลยค่ะ ที่เมืองนี้มีสตรอเบอรี่ที่ขึ้นชื่อมากค่ะ และมีอยู่หลายฟาร์ม แต่ติ๊กจะพาไปทานที่ฟาร์มที่ขึ้นชื่อของเมืองจิจิบุกันค่ะ ว่าสตรอเบอรี่จะอร่อยหวาน เหมือนที่เลื่องลือหรือเปล่า ตามติ๊กมาเลยค่ะ

 

เรามาถึงฟาร์มโคมัตซึซาว่า เลเชอร์ (Komatsuzawa Leisure Farm) เป็นฟาร์มสตรอเบอรี่ค่ะ ที่นี่จะมีฟาร์มแบ่งเป็นล็อคๆ หลากหลายแห่ง และมีสตรอเบอรี่หลากหลายสายพันธ์เลยค่ะ

 

เข้าไปด้านในกันเลยค่ะ ราคา 1,000 เยน 30 นาทีค่ะ มีถาดพลาสติกให้ 1 ถาด หรือใครจะซื้อนมข้นเพิ่มก็ได้ค่ะ 1 หลอด 200 เยน

 

ตามติ๊กเข้าไปเด็ดสตรอเบอรี่สดๆ กันเลยค่ะ ในโดมแห่งนี้เป็นโดมที่สะอาดสะอ้าน มีลมพัดผ่านจึงทำให้สตรอเบอรี่ลูกใหญ่ค่ะ เราสามารถเด็ดแล้วมาชิมได้เลยค่ะ

 

สตรอเบอรี่ของที่นี่ มีรสชาติอร่อย หอมหวานค่ะ ใครที่อยากมาเด็ดชิมสตรอเบอรี่อร่อยๆ ที่ญี่ปุ่น ต้องมาในเดือน มกราคม – พฤษภาคม ค่ะ เป็นช่วงที่มีสตรอเบอรี่อร่อยค่ะ

 

ใครมาเที่ยวที่ไซตะมะ แนะนำให้มาเที่ยวที่เมืองจิจิบุค่ะ มีฟาร์มสตรอเบอรี่อร่อยๆ เยอะแยะเลยค่ะ

ติ๊กแนะนำให้มาที่ฟาร์มโคมัตซึซาว่า เลเชอร์ แห่งนี้ค่ะ สตรอเบอรี่ที่ฟาร์มนี้ลูกใหญ่มากๆ หวานอร่อยด้วยค่ะ และอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวด้วยค่ะ เดินทางสะดวกสบาย ด้วยการรถไฟเซบุค่ะ

 

เมืองจิจิบุ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง รอเราอยู่ คราวหน้าติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามกันนะค่ะ