เที่ยวชิมช้อปเมืองปารีส

กลับมาพบกับติ๊กอีกแล้วนะค่ะ วันนี้ติ๊กยังคงพาเที่ยวกันต่อที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสค่ะ

เอ! วันนี้ติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ตามติ๊กมาเลยค่ะ กรุงปารีส แบ่งการปกครองเป็น 20 เขต ซึ่งในแต่ละเขต จะมีเรื่องราวและสถานที่แตกต่างกันไป

 

วันนี้ติ๊กจะพามาทำความรู้จักกันในแต่ละเขต ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง พร้อมหรือยังค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มเขตแรกกันเลยดีกว่าค่ะ

เราเริ่มกันที่เขต 1 เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) นั่นเองค่ะ ที่นี่ มีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากมาย

 

พระเจ้าฟิลิปอองคูสตู๊ด เป็นผู้ให้สร้างลูฟวร์ ขึ้นมาเป็นพระราชวัง และได้มีการต่อเติมพระราชวังแห่งนี้ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ต่อมา ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้มีการให้สถาปนิกใหญ่ ต่อเติมพระราชวังขึ้นให้ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุด แต่เมื่อสร้างเสร็จก็ไม่ได้อยู่ กลายเป็นพระราชวังร้าง เสื่อมถอยตั้งแต่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เรื่อยมา

 

จนหลังสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส ได้มีการปฏิรูป ลูฟวร์ ขึ้นมาใหม่ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ในปี 1793 จนทำให้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่เก็บรวบรวม ผลงานของศิลปินชื่อดังไว้อย่างมากมาย ภายใต้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ค่ะ

 

ไม่ไกลจากลูฟวร์ (Louvre Museum) เราจะเห็นประตู ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า นั่นก็คือ อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอเลตวล (Arc de triomphe) หรือที่รู้จักกันในนาม ประตูชัยแห่งคาดูเซล หรือประตูชัยแห่งฝรั่งเศส

 

อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอเลตวล หรือประตูชัยแห่งฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นโดยคำสั่งของนโปเลียน ระหว่างปี ค.ศ.1806 – 1808 เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อปกป้องประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างสงครามนโปเลียน

ประตูนี้ถูกสร้างจากหินอ่อน เหนือหัวเสาจะเป็นรูปปั้นนายทหารเอกทั้ง 8 แห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส ส่วนด้านบนสุดเป็นรูปหล่อสำริดม้า 4 ตัว เทียมรถศึก นำโดยเทพีทั้ง 2 ฝั่งด้วยค่ะ

 

เราเดินลอดซุ้มประตูออกมา จะเจอกับสวนขนาดใหญ่ Tuileries Garden บริเวณสวนนี้ เราสามารถมองเห็นยอดของหอไอเฟลได้ด้วยค่ะ และด้านหน้าของสวนเราจะเห็นชิงช้าสวรรค์ค่ะ

 

เรามาเที่ยวต่อกันที่เขต 4 ค่ะ ซึ่งเขต 4 นี้จะเป็นที่ตั้งของ โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre Dame Cathedral)

 

โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre Dame Cathedral) เป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงปารีส แต่เดิมโบสถ์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตรงที่ของชาวโรมัน ซึ่งชาวโรมันสร้างวัดขึ้นมาเพื่อบูชาเทพจูปิเตอร์ จากนั้นเลยมาสร้างให้เป็นโบสถ์

พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ทรงดำริอยากให้มีโบสถ์ประจำเมืองขึ้นมา และเป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการรวมวัด 2 วัดเข้าด้วยกัน คือ นอร์ทเธอดาม และเซนต์เลอแตง ปัจจุบันกลายเป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ และมีความสวยงามมาก ใช้เวลาในการสร้างกว่า 200 ปี และมีการซ่อมบำรุง เรื่อยมา จนเด่นเป็นสง่า คู่บ้านคู่เมืองปารีสในปัจจุบัน

 

วิหารนอร์ทเธอดามนี้ เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ใช้แผนผังแบบง่ายๆ เรียกว่า โกลเด้นเซคชั่น รูปปั้นที่ล้อมรอบอยู่ที่ตัววิหาร ส่วนใหญ่เป็นเหล่านักบุญที่สำคัญๆ ในคริสตศาสนา องค์ที่เด่นที่สุดจะเป็น เซ็คเดอนีส ที่ยืนถือหัวตัวเอง นั่นเองค่ะ มองใกล้ๆ ที่เป็นรายละเอียด จะเป็นนักบุญทั้งหมดเลยค่ะ แต่ทุกอย่างจะเป็นรูปปั้นที่บ่งบอกถึงเรื่องราวในคริสตศาสนาทั้งหมด

 

วิธีการเข้าโบสถ์นอร์ทเธอดาม จะเข้าทางซ้ายและออกทางขวา โดยเชื่อว่า ทางซ้าย ภาษาลาติน แปลว่า บาป เข้าไปเพื่อชำระบาป เมื่อเราบริสุทธิ์แล้ว จะออกมาทางขวานั่นเองค่ะ

 

ด้านในโบสถ์นอร์ทเธอดามจะห้ามถ่ายภาพค่ะ เดี๋ยวติ๊กเข้าไปเก็บบรรยากาศและความทรงจำก่อนนะค่ะ ไว้ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยว ลองมาเก็บบันทึกความทรงจำแบบติ๊กกันนะค่ะ

 

เราเที่ยวกันจนเย็นแล้ว เดี๋ยวติ๊กไปหาเครื่องดื่มอะไรอุ่นๆ และหาของลงท้องก่อนนะค่ะ แล้วเราจะได้ไปเที่ยวกันต่อค่ะ

ตอนนี้ติ๊กพามาอยู่ที่เขต 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอเลตวล (Arc de triomphe) หรือประตูชัยฝรั่งเศส นั่นเองค่ะ

 

ประตูนี้จะตั้งอยู่กลางจัตรัส ชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือเป็นที่รู้จักกันนามของจัตุรัสแห่งดวงดาวค่ะ ซึ่งจะเป็นจุดสัญจรของถนนทั้งหมด 12 สาย

ประตูชัยนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคำสั่งของนโปเลียน เพื่อประกาศความเกรียงไกรของกองทัพฝรั่งเศส หลังจากที่ชนะสงครามออสตะลิ ในปี ค.ศ.1806 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836

 

ตัวประตูชัยนี้ถูกสร้างในแบบศิลปะนีโอคลาสสิค ซึ่งได้รับการดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมแบบโรมันโบราณ ประดับไปด้วยรูปแกะสลักมากมาย ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณฐานหรือประตูทั้ง 4 ทิศ

 

เดี๋ยวเราไปเที่ยวกันต่อที่เขต 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หอไอเฟล (Eiffel Tower) ค่ะ ตามติ๊กไปที่หอไอเฟลเลยค่ะ หอไอเฟลถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสเลยก็ว่าได้ค่ะ หอไอเฟลนี้มีความสูง 315 เมตร เทียบเท่ากับตึกสูงประมาณ 105 ชั้น เลยเชียวค่ะ ความสูงของหอไอเฟลนี้สามารถยืดหยุ่นขึ้นลงได้อีก ขึ้นอยู่กับสภาพของอากาศ ถ้าอากาศร้อนเหล็กจะยืด เพราะโครงสร้างจะทำมาจากเหล็ก ในสมัยก่อน การก่อสร้างด้วยอิฐและปูนสร้างได้ยาก จึงใช้โครงสร้างเหล็กแทน

   

มูสสตาร์ฟ ไอเฟล เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น เพื่อต้องการให้ปารีสแสดงศักยภาพถึงความยิ่งใหญ่ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โชว์ในงาน Expo ในปี ค.ศ.1889 จึงเกิดไอเดียในการสร้างหอไอเฟลขึ้นมา จากนั้นหอไอเฟลก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสในที่สุด

 

เรามองแค่ฐานก็เห็นถึงความยิ่งใหญ่แล้วล่ะค่ะ โครงสร้างเหล็กมีความซับซ้อน เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้ โดยมีลิฟท์ไว้บริการค่ะ วิธีการชมวิวบนหอไอเฟลจะมี 3 สเต็ปค่ะ แต่ล่ะสเต็ป 1 2 และ 3 จะมีลิฟท์ไว้บริการค่ะ

 

และฐานของหอไอเฟล จะมีรูปปั้นของ มูสสตาร์ฟ ไอเฟล อยู่ด้วยค่ะ

 

การมองหอไอเฟล เราจะมองได้หลากหลายมุมค่ะ ที่ฮิตมากจะเป็นฝั่งของ โทคาเดโล (Trocadero view point) จะเป็นเนินเดินขึ้นไปนิดนึง มองลงมา สามารถเห็นหอไอเฟล และถ่ายรูปกันแบบเต็มๆ ได้เลยค่ะ ทางด้านโนน่นค่ะ

 

ถ้าเรามีเวลาน้อยไม่สามารถต่อคิวที่ยาวเหยียดเพื่อขึ้นลิฟท์ไปบนหอไอเฟลได้ ติ๊กแนะนำเลยนะค่ะ ให้ไปชมหอไอเฟลบนโทคาเดโล จะได้เห็นความสวยงามของหอไอเฟลอีกมุมหนึ่ง ซึ่งสวยงามมากไม่แพ้วิวด้านบนของหอไอเฟลเลยล่ะค่ะ

นอกจากจุดชมวิวโทคาเดโลแห่งนี้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งมุมที่ใกล้ๆ กันค่ะ คิอ บริเวณแม่น้ำแซน เราก็สามารถชมวิวหอไอเฟลได้อย่างสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ

 

ติ๊กพามาชมวิวอีกหนึ่งจุดค่ะ ด้านหลังเราจะเห็นเทพีสันติภาพของอเมริกาด้วย เป็นเทพีสันติภาพของชาวอเมริกาที่อาศัยอยู่ที่กรุงปารีส ได้สร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญตอบแทนให้กับคนฝรั่งเศส ในตอนที่ฝรั่งเศสประกาศเอกราชครบรอบ 100 ปี

 

อากาศช่วงที่ติ๊กมาในตอนนี้ เป็นช่วงที่อากาศดีมากๆ ค่ะ ถ้ามาเที่ยวในหน้าร้อน เราจะท่องเที่ยวกันได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ ขนาดตอนนี้เวลา 3 ทุ่มแล้ว แสงยังคงสดใสอยู่เลยค่ะ เราสามารถเดินเที่ยวเมือง หรือจะนั่งเรื่มริมแม่น้ำแซน ลัดเลาะไปตามแม่น้ำ และสามารถท่องเที่ยวที่ต่างๆ ได้หลายที่เลยค่ะ

 

เดี๋ยวติ๊กจะพาไปเที่ยวกันต่อที่เขต 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ปลัส เดอลา คงคอร์ด (Place Dela Concorde) ซึ่งหน้าสวนจะมีชิงช้าสวรรค์ ถือว่าเป็นจัตุรัสใหญ่จัตุรัสหนึ่ง ใจกลางจัตุรัสนี้จะมีแท่งโอเบลิสก์แห่งลาสซอ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางจัตุรัสนี้เลยค่ะ

 

เสาโอเบลิสก์แห่งลาสซอ (Obelisk of Luxor) จะเป็นเสาสูง ตัวเสาจะถูกสลักด้วยตัวอักษร เยียโลฟิฟิค บอกเล่าถึงเรื่องราวของฟาโรห์ ผู้สร้างและบูชาเทพเจ้าค่ะ เสาโอเบลิสก์แห่งลาสซอนี้ ประเทศอียิปต์ได้มอบเป็นของขวัญให้แก่ฝรั่งเศส

 

สังเกตุได้จากบริเวณโค่นเสา จะมีลายเส้นภาพเขียนฉาบด้วยสีทอง แสดงถึงการขนย้ายลงเรือมายังประเทศฝรั่งเศส และส่วนยอดของเสาหินนี้ ทางรัฐบาลฝรั่งเศส ได้นำแผ่นทองมาปิดไว้ให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

 

ปลัส เดอลา คงคอร์ด (Place Dela Concorde) ใช้ประกอบพิธีสำคัญๆ หลายอย่าง เช่น พิธีแต่งงานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางเมเลีย อาโตเนส นอกจากนี้ ยังใช้เป็นลานประหารของนักโทษในสมัยปฏิวัติสงครามฝรั่งเศส จากตรงนี้ เรามองไปจะเห็นถนนชองกาลิเซ่ทั้งถนนค่ะ และจะเห็นประตูชัยฝรั่งเศสด้วยค่ะ

 

เดินเที่ยวกันจนเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวติ๊กจะพาไปดื่มกาแฟ และทานอาหารกันที่ร้าน La Malakoff Cafe

 

อาหารที่ร้านนี้จานใหญ่มากเลยค่ะ ติ๊กสั่งสลัด เป็ดทอดกรอบ เป็ดของฝรั่งเศสนี่ขึ้นชื่อมากค่ะ มาท่องเที่ยวแล้วต้องสั่งเป็ดมาลองทานกันนะค่ะ

 

อาหารมาวางตรงหน้าแล้ว เดี๋ยวติ๊กต้องชิมแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด เรามาชิมเนื้อเป็ดกันก่อนเลย เนื้อเป็ดนุ่ม อร่อยสมกับเป็นเป็ดที่ขึ้นชื่อจริงๆ ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่อาหารอร่อยเลยทีเดียวค่ะ

 

มาชิมจานต่อไปกันดีกว่า สลัดไก่กรอบ เนื้อไก่กรอบอร่อย คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดเข้ากันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว อร่อยค่ะ เดี๋ยวติ๊กทานเสร็จแล้ว จะพาไปดูไฟที่หอไอเฟลยามค่ำคืนกันค่ะ

 

ในยามค่ำคืน ทุกชั่วโมงที่หอไอเฟล จะมีการเปิดแสงไฟระยิยระยับ สวยงามไปอีกแบบค่ะ เพราะฉะนั้นทุกหนึ่งชั่วโมงจะมีนักท่องเที่ยวมายืนรอชมความสวยงามของหอไอเฟล เช่นกันค่ะ

 

งั้นเดี๋ยวเรามาชมความสวยงามด้วยกันเลยค่ะ ว้าว สวยไหมค่ะ เป็นอีกหนึ่งชอตที่สวยงามค่ะ เราสามารถมาชมความสวยงามของหอไอเฟลที่สวยงามได้อีกแบบหนึ่งค่ะ ทุกหนึ่งชั่วโมงจะเปิดไฟเพียงแค่ 5 นาที เท่านั้นค่ะ

 

คราวหน้าอย่าลืมติดตามกันนะค่ะ ว่าติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก รอติดตามกันนะค่ะ

ขอขอบคุณ : การบินไทย (Thai Airways) ที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการถ่ายทำทริปดีๆ ที่ประเทศฝรั่งเศส

http://www.thaiairways.com