ติ๊กพาเที่ยวเมืองนีซและเมืองปารีส

กลับมาพบกับติ๊กอีกแล้ว วันนี้ติ๊กยังคงพาเที่ยวกันต่อที่ประเทศฝรั่งเศสค่ะ ติ๊กจะพาไปเที่ยว ใน 2 เมือง เริ่มต้นกันที่เมืองนีซ ( Nice) และเมืองปารีส (Palis)

ตามติ๊กไปเที่ยวเมืองนีซกันคะ ติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ย่านกูซาเลย่า (Cours Saleya Street) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านที่ได้รับการโหวตจากหนังสือ และเว็บไซต์ต่างๆ ให้ที่นี่ เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่ต้องแวะมาเลยล่ะค่ะ

 

ที่นี่จะมีแบล็คกราวน์เป็นตึกรามบ้านช่องที่มีสีสันงดงาม และตลอดเส้นทางของที่นี่จะมีร้านค้าต่างๆ มาเปิดเป็นซุ้มเล็กๆ เป็นตลาดแนวแอนทีค ในแต่ละวันจะมีสินค้าแตกต่างกันไป

 

ในวันจันทร์ช่วงเช้า จะเป็นตลาดดอกไม้ ส่วนในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ จะเป็นตลาดขายผักและผลไม้

 

และในตอนกลางวันของทุกวัน จะเป็นตลาดแนวแอนทีคคะ จะขายของ Hand made เครื่องเงิน เครื่องประดับน่ารักๆ

 

บริเวณข้างๆ จะมีร้านอาหารต่างๆ มีอาหารหลากหลายสไตล์ เช่น อาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศส อาหารเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะอาหารทะเลของที่นี่จะสดมากๆ เลยค่ะ

 

ถนนกูซาเลย่า ทั้งสองข้างทาง จะมีร้านขายของ และร้านอาหารเรียงรายเต็มถนนเลยค่ะ และในย่านนี้ ชาวเมืองจะนิยมทานอาหารทะเลกัน มีทั้ง หอยนางรม กุ้งล็อบเตอร์ ปูตัวโตๆ ปลา เป็นอาหารทะเลที่สดมากๆ ค่ะ

 

ร้านอาหารเยอะแยะไปหมดเลย เลือกทานกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ ถ้าใครมาเที่ยวเมืองนีซ แล้วอยากทานอาหารทะเลสดๆ ติ๊กแนะให้มาที่ย่านกูซาเลย่า รับรองได้เลยว่า ได้ทานอาหารสดๆ อย่างแน่นอนค่ะ

นอกจากมีร้านอาหารทะเลแล้ว ยังมีงานศิลปะสวยๆ มาวางขายที่นี่ด้วยค่ะ มาเที่ยวที่ย่านนี้ ได้ทั้งช้อปปิ้ง ทานอาหารกันแบบเต็มอิ่มเลยล่ะค่ะ

 

เดินดูตลาดกันแล้ว ชักเริ่มหิวแล้วค่ะ เดี๋ยวติ๊กจะพาไปทานอาหารกันที่ร้านคาเฟ่ เดอ ทูรีน (Café ‘ de Turin) ซึ่งเป็นร้านที่เก่าแก่ เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1908 จนถึงปัจจุบัน เปิดมาแล้วกว่าร้อยปีเลยค่ะ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากๆ ของที่นี่ เปิดมานานมากๆ อาหารก็ต้องอร่อยอย่างแน่นอนเลยค่ะ

 

อาหารทะเลที่นิยมทานกันจะเป็นอาหารทะเลที่เสริฟมาเป็นถาด จะมีอาหารทะเล หลายๆอย่างรวมกันหรือจะเลือกเฉพาะอาหารทะเลที่เราชอบก็ได้ค่ะ ที่ติ๊กเลือกมาทาน จะมี ปู กุ้ง หอย รวมกันค่ะ แหม่เห็นอาหารทะเลแบบนี้แล้วนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู๊ดของบ้านเราเลยค่ะ ถ้ามีมารับรองเลยค่ะว่าเด็ดทีเดียว อาหารทะเลของที่นี้ จะจิ้มกับมายองเนส

 

นอกจากจะมีอาหารทะเลสดๆ แล้ว ติ๊กยังมีทั้งอาหารแบบจานร้อน และแบบจานเย็นอีกด้วยค่ะ เป็นปลาซีบาสย่าง เสริฟพร้อมข้าว และสลัดซีฟู๊ด

 

อาหารมาวางเต็มหน้าแล้ว เรามาชิมกันเลยค่ะ เริ่มที่สลัดซีฟู๊ดก่อนแล้วกันค่ะ ทานง่ายดี สลัดซีฟู๊ดจานนี้ มีทั้ง กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปลา คลุกเคล้าด้วยน้ำมันมะกอก มะกอก เพรสโต้ซอส บีบมะนาวลงไปนิดเพิ่มรสชาติ อร่อยทีเดียวค่ะ

มาชิมปลาซีบาสย่าง กันบ้างค่ะ ย่างมาหนังกรอบมากๆ เนื้อด้านในนุ่ม หอม อร่อยค่ะ

 

มาชิมซีฟู๊ด กันบ้าง กุ้ง เนื้อแน่น หวาน กรอบ อร่อย สดมากๆ ค่ะ

 

อาหารในแต่ละร้านจะมีเมนูและราคาที่แตกต่างกันไป ต้องดูราคากันนิดนึงนะค่ะ อย่างอาหารทะเลเป็นถาด ราคาจะเริ่มต้นที่ 100 ยูโร หรือประมาณ 4,000 บาท หรือบางร้าน ราคาจะเริ่มต้นที่ 40-50 ยูโร หรือประมาณ 1,600 – 2,000 บาท ก่อนสั่งลองเลือกดูกันด้วยนะค่ะแต่ติ๊กรับรองเลย ว่าอาหารสดมากๆ ค่ะ

 

อิ่มแล้วเรามาเดินย่อยอาหารกันสักหน่อยค่ะ เรากลับมาที่จตุรัสมาเซน่า (Place Massena) ยามค่ำคืนมีความสวยงาม ด้วยแสงไฟ เราจะเห็นรูปปั้นคนทั้ง 7 เรืองแสง มีสีสันสดใส สวยงามเลยทีเดียว

เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า ติ๊กจะพากลับไปที่ตลาดกูซาเลย่า เพื่อไปเดินดูบรรยายกาศตลาดยามเช้ากันค่ะ

ตลาดในตอนเช้านี้ จะมีร้านค้าต่างๆ มากมาย มีทั้งร้านขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร ต่างๆ มากมาย ตลาดนี้เหมาะกับกับการเดินช้อปปิ้ง และถ่ายรูปคะ เพราะมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปกันด้วย

 

วันนี้เป็นวันเสาร์  มีดอกไม้สวยๆ ผักผลไม้ เยอะแยะไปหมดเลย

 

ดูพริกหยวกของที่นี่สิค่ะ ลูกใหญ่กว่าหน้าติ๊กอีกค่ะ มะเขือเทศก็ลูกใหญ่ รูปทรงแปลกๆ ด้วย เป็นมะเขือเทศอีกพันธ์หนึ่ง

  

หน่อไม้ฝรั่งสีขาว เป็นหน่อไม้ที่คนที่นี่นิยมทานกัน มะม่วงลูกกลมๆ ไม่เหมือนมะม่วงบ้านเราเลย เนื้อหนา รสชาติอร่อยค่ะ

   

ของที่ระลึกต่างๆ ที่ตลาดนี้ก็มีขายด้วยค่ะ มีผลไม้อบแห้ง ผลไม้เชื่อม เรามาเดินสำรวจตลาด เราจะได้รู้ค่ะ ว่าคนที่นี่เค้าทานอะไรกันบ้างนั่นเองค่ะ

 

เราเดินออกมาจากตลาดกูซาเลย่า ทางซ้ายจะเป็นถนนพรอมมาหนาด อองเดร เป็นถนนที่ลัดเลาะชายฝั่ง

ถ้าเราเลี้ยวขวา เราก็จะไปที่จตุรัส บาสดูปาเล (Place de Palais) ที่จตุรัสนี้ ก็จะมีตลาดตั้งอยู่อีกเหมือนกันค่ะ 

 

ด้านหลังจะมีอาคารที่เป็นหอนาฬิกาสีชมพู เป็นที่ว่าการประจำเมืองนีซค่ะ

 

ตลาดนี้ จะมีของขายมากมาย

 

มีทั้งเครื่องประดับ ผ้าต่างๆ มาเลือกซื้อกันได้ตามสบายเลยค่ะ

 

เราดูของสวยๆ งามๆ กันแล้ว เดี๋ยวติ๊กจะพาไปดูท้องทะเลที่สวยงามกันบ้าง จะมีทะเลอยู่มุมหนึ่งที่ใกล้กับสนามบิน เป็นทะเลชายหาดส่วนตัว และชายหาดสาธารณะ ที่คนเมืองนีซ ชอบไปนอนอาบแดดกัน

 

ชายหาดสาธารณะตรงนี้ จะเป็นชายหาดที่มีความสวยงาม ท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีสวยสดใส สะท้อนกับแสงแดด ทำให้ท้องทะเลมีสีฟ้าคราม ค่อยๆ ไล่ระดับลงไป มีความสวยงามมากเลยทีเดียว

 

เราไปชมบรรยากาศความสวยงามของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกันแบบใกล้ๆ กันเลย ชายหาดสาธารณะ (Public Beach) ของที่นี่ เราสามารถเดินลงไปปูผ้า นอนอาบแดดกันได้เลย หรือจะไปเช่าเตียงนอนอาบแดดก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ ต้องการนอนอาบแดดเบบไหนก็เลือกกันได้ตามใจชอบค่ะ

 

ถ้าใครมาเที่ยวเมืองนีซ แล้วไม่อยากเจอคนเยอะ ติ๊กแนะนำให้มาที่ชายหาดแห่งนี้ เงียบสงบ สวยงาม เพราะชายหาดแห่งนี้ เป็นชายหาดของคนพื้นเมือง จึงมีความเงียบสงบ และคนน้อยค่ะ

 

ส่วนริมหาดของชายหาดนี้ จะเป็นถนน พรอมมาหนาดอองเดร เต็มไปด้วยโรงแรมที่พัก ตากอากาศ

 

ติ๊กพาเที่ยวเมืองนีซกันอย่างจุใจแล้ว ติ๊กจะพาไปเที่ยวกันต่อที่เมืองปารีสค่ะ

 

เมืองปารีส (Paris) จะแบ่งเขตการปกครองเป็น 20 เขต โดยผังเมืองจะถูกออกแบบมาในลักษณะของวนเข็มนาฬิกา คล้ายๆ กับรูปก้นหอยผ่าครึ่งนั่นเองค่ะ

 

เขตแรกที่ติ๊กจะพาไปเที่ยวกัน จะเป็นเขตไหน ตามติ๊กมาเลยค่ะ

ตอนนี้ติ๊กพามาอยู่ที่เขต 18 เขตนี้เป็นที่ตั้งของมงมาร์ต (Montmartre) หรือหลังคาของเมืองปารีส ที่นี่จะเป็นที่ตั้งของโบสถ์สีขาว หรือโบสถ์พระหฤทัย นั่นเองค่ะ

     

โบสถ์พระหฤทัยนี้เรียกว่า บาสิรี ดูซาเคิล (Basilique de Sacre-Coeur) เป็นโบสถ์สีขาว ซึ่งจะมีความแตกต่างจากโบสถ์อื่นๆ ในยุโรป โบสถ์ของที่นี่จะเป็นหินอ่อนสีขาว เมื่อกระทบกับแสงจะมีความสวยงาม

   

สังเกตุบนยอดหลังคา เป็นโดมกลมๆ ไม่เหมือนกับที่อื่น โบสถ์นี้สร้างขึ้นในปี 1914 โบสถ์พระหฤทัยนี้สวยเด่นเป็นสง่ามากๆ ค่ะ ซึ่งถูกแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เราสามารถชมวิวที่สวยงามได้ที่บนโบสถ์ มีความสวยงามไม่แพ้จุดชมวิวบนหอไอเฟล เลยล่ะค่ะ

 

ตามติ๊กไปชมวิวที่สวยงามบนโบสถ์กันค่ะ โอ! ช่างเป็นวิวที่มีความสวยงาม เราสามารถมองเห็นเมืองด้านล่างของปารีสได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนภาพพาโนลาม่า เห็นภาพวิวกว้างเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งจุด หนึ่งสถานที่ ที่แนะนำว่าควรมาท่องเที่ยว มาถ่ายรูปวิวสวยๆ มามองเมืองปารีสที่สวยงามกันค่ะ

 

ติ๊กแนะนำนะค่ะ ว่าถ้ามาเที่ยวโบสถ์พระหฤทัยควรมาในวันธรรมดา เพราะถ้ามาวันช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะ และแน่นมากๆ ค่ะ

 

โบสถ์พระหฤทัยจะตั้งอยู่ชานเมือง ซึ่งในสมัยก่อนสถานที่ตรงนี้ จะเป็นพิ้นที่สำหรับทำไร่ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาสร้างโบสถ์นั่นเอง และที่นี่ถือได้ว่าเป็นถิ่นกำเนิดของจิตกรชื่อที่มีชื่อเสียงหลายๆ คน ที่มาตั้งถิ่นฐานและมานั่งวาดรูปที่นี่ อย่างเช่น ปิกัสโซ่ แวนโก๊ะ หรือเลอนัว และที่ถือถือได้ว่าเป็นถิ่นกำเนิดของ อิมเพรสชั่นนีส ในยุคศตวรรษที่ 19 ด้วยค่ะ

จุดชมวิวที่มงมาร์ต หรือที่โบสถ์พระหฤทัย เราสามารถขึ้นรถรางมาบนจุดชมวิว หรือจะเดินขึ่นมาก็ได้ค่ะ ซึ่งถ้าในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ บนจุดชมวิวนี้ จะมีตลาดนัด มีของขายมากมาย

 

ในยุโรปช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีตลาดนัด ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับจุดท่องเที่ยวต่างๆ เวลาผู้คนมาท่องเที่ยวจะได้มาจับจ่ายใช้สอยกันได้อย่างสะดวกสบาย

 

เราเข้าไปเดินดูตลาดเค้าหน่อยค่ะ ว่าเค้าขายอะไรกันบ้าง มีหอยทาก หรือเอสคาโก้ โดยจะนำมาทากับขนมปัง น่าอร่อยเชียว ที่ตลาดแห่งนี้ จะมีของดีๆ มาขาย สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้เลย ของที่ขายที่นี่จะไม่เหมือนของที่ขายในเมือง หรือในซุปเปอร์มาเก็ตค่ะ

 

ยังไม่หมดเท่านี้นะค่ะ เราเดินลงไปข้างหน้าตามถนน ยังมีร้านคาเฟ่ มีงาน Art อีกด้วยค่ะ เดินมานิดเดียวเอง เราจะเจอกับถนนเล็กๆ ที่มีร้านต่างๆ มากมาย มีร้านขายของที่ระลึก

 

ร้านคาเฟ่และมีจิตรกรรุ่นใหม่ มาแสดงผลงานของตนเอง และมาขายงานด้วยในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ อยากซื้อภาพสวยๆ เก็บไว้ ก็มาเดินเลือกกันที่บริเวณนี้ได้เลยค่ะ

 

เขตต่างๆ ของเมืองปารีสนี้ เราสามารถดูได้จากป้ายถนน ตัวเลขจะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงเขต และด้านล่างจะเป็นชื่อสถานที่

 

คราวหน้าติ๊กจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกในเมืองปารีส อย่าลืมติดตามกันนะค่ะ